สำหรับมูลนิธิ, องค์กรการกุศล, อบต. หรือผู้จิตศรัทธาที่ต้องการจัดหารถเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย แต่มีงบประมาณจำกัด การซื้อ "รถตู้กู้ภัยมือสอง" มาทำเป็นรถกู้ภัยถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและนิยมมาก แต่จะเลือกยังไงให้ได้รถดี เครื่องไม่พังกลางทาง และถูกกฎหมาย? บทความนี้จะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อรถตู้กู้ภัยมือสอง เช็กสภาพ ราคา และข้อกฎหมายที่ต้องรู้ให้ครบถ้วนครับ
รถตู้กู้ภัยมือสอง เลือกยังไงให้คุ้ม? เช็กราคากลาง รุ่นยอดฮิต และกฎหมายไซเรน
การจัดหารถกู้ชีพสักคัน ถ้าเป็นรถใหม่ป้ายแดงพร้อมอุปกรณ์ครบชุด ราคาอาจพุ่งไปถึง 1.5 - 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับหน่วยงานเล็กๆ หรืออาสาสมัคร
ดังนั้น "รถตู้กู้ภัยมือสอง" จึงเป็นทางออก เพราะด้วยงบประมาณประมาณ 400,000 - 800,000 บาท คุณสามารถได้รถตู้สภาพดี พร้อมอุปกรณ์เบื้องต้น (เช่น ไฟไซเรน, เตียง) ที่พร้อมออกเหตุได้ทันที แต่ก่อนจ่ายเงิน ต้องดูอะไรบ้าง?
รุ่นยอดฮิตตลอดกาล: ทำไมต้อง Toyota Commuter?
ในตลาดรถตู้กู้ภัยมือสอง แทบจะ 95% คือ Toyota Commuter (โตโยต้า คอมมิวเตอร์) โดยเฉพาะโฉมปี 2005-2019 (โฉมไอ้โม่ง/หลังคาสูง)
ทำไมรุ่นนี้ถึงเป็น "เทพเจ้า" ของวงการกู้ภัย?
-
ห้องโดยสารกว้างและสูง: รุ่นหลังคาสูงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถนั่งทำงาน หรือยืนย่อเข่าทำ CPR ได้สะดวกกว่ารถตู้หลังคาเตี้ย
-
เครื่องยนต์ทนถึก: เครื่องดีเซล D-4D (รหัส 2KD หรือ 1GD) ขึ้นชื่อเรื่องความอึด ทนความร้อนได้ดี แม้ต้องวิ่งงานหนักหรือจอดติดเครื่องนานๆ
-
อะไหล่หาง่ายที่สุด: รถกู้ภัยต้องพร้อมใช้ 24 ชม. ถ้ารถเสีย อะไหล่ Commuter หาได้ทุกร้านอะไหล่ ช่างซ่อมเป็นทุกคน
-
ราคาขายต่อแข็ง: แม้จะเป็นรถมือสอง ราคาก็ไม่ตกวูบวาบ
เช็กลิสต์: ซื้อรถตู้กู้ภัยมือสอง ต้องตรวจอะไรเป็นพิเศษ?
รถกู้ภัยคือรถที่ต้อง "วิ่งเร็ว" และ "แบกน้ำหนักเยอะ" (อุปกรณ์+ตู้แอร์+คน) การตรวจสภาพจึงต้องละเอียดกว่ารถบ้านครับ
1. สภาพเครื่องยนต์และระบบระบายความร้อน (สำคัญที่สุด)
-
รถกู้ภัยมักมีการปรับจูนเครื่องยนต์หรือดันรางเพื่อให้ขับเร็ว ต้องเช็กว่าเครื่องหลวมไหม มีควันขาว หรือเสียงเขกผิดปกติหรือไม่
-
ระบบความร้อน: เปิดฝากระโปรงดูหม้อน้ำและพัดลม ต้องทำงานสมบูรณ์ เพราะรถกู้ภัยต้องจอดติดเครื่องเปิดแอร์รอนาน
2. ระบบไฟและไดชาร์จ
-
รถกู้ภัยมีการติดตั้งอุปกรณ์กินไฟเยอะ (ไฟไซเรน, วิทยุสื่อสาร, เครื่องเสียง, แอร์หลัง)
-
ต้องเช็กว่ามีการเดินสายไฟเรียบร้อยหรือไม่ (สายไฟรกรุงรังเสี่ยงไฟไหม้) และ "ไดชาร์จ" ยังจ่ายไฟพอหรือไม่ หรือมีการอัปเกรดมาแล้ว
3. ช่วงล่างและการรับน้ำหนัก
-
สังเกตว่าท้ายรถห้อยหรือไม่ (เพราะแบกอุปกรณ์หนัก)
-
โช้คอัพและแหนบต้องอยู่ในสภาพดี ไม่รั่ว ไม่ล้า เพื่อความปลอดภัยขณะใช้ความเร็ว
4. อุปกรณ์กู้ชีพที่แถมมา (ถ้ามี)
-
ถ้าผู้ขายขายพร้อมอุปกรณ์ เช็กสภาพ "เตียงพยาบาล" ว่าล้อล็อกได้ไหม ขาเตียงกางออกง่ายไหม
-
สัญญาณไฟไซเรน: หลอด LED ติดครบไหม กล่องเสียงทำงานปกติหรือไม่
เรื่องต้องรู้: กฎหมาย และการโอน "ใบอนุญาตใช้ไฟ"
การซื้อขายรถตู้กู้ภัยมือสอง ไม่ใช่แค่โอนเล่มทะเบียนที่ขนส่งแล้วจบนะครับ มีเรื่องกฎหมายเฉพาะที่ต้องเคลียร์ให้ชัด
-
การโอนรถ: โอนกรรมสิทธิ์ตามปกติที่กรมการขนส่งทางบก (รถตู้ส่วนบุคคลป้ายฟ้า หรือป้ายขาว)
-
ใบอนุญาตสัญญาณไฟ (ใบไซเรน):
-
รถกู้ภัยที่มีไฟไซเรน ต้องมี "ใบอนุญาตใช้สัญญาณไฟวับวาบและเสียงสัญญาณ" จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
-
ข้อควรระวัง: ใบอนุญาตนี้ "ไม่โอนตามเจ้าของรถ" นะครับ! ใบอนุญาตผูกกับ "ชื่อบุคคล/หน่วยงาน"
-
สิ่งที่ต้องทำ: เมื่อซื้อรถมาแล้ว เจ้าของใหม่ต้องนำรถไปสังกัดหน่วยงาน (มูลนิธิ/อบต.) และทำเรื่อง "ขออนุญาตใหม่" ในนามของตนเองหรือหน่วยงานต้นสังกัดให้ถูกต้อง
-
จัดไฟแนนซ์ "รถตู้กู้ภัยมือสอง" ได้ไหม?
นี่คือคำถามยอดฮิต คำตอบคือ "ได้ แต่มีเงื่อนไข" ครับ
-
กรณีรถตู้เดิมๆ (รถเปล่า): จัดไฟแนนซ์ได้ง่ายเหมือนรถบ้านทั่วไป ดอกเบี้ยรถตู้มือสองปกติ
-
กรณีรถที่ตกแต่งแล้ว (ติดไซเรน/ตีตู้ภายใน): ไฟแนนซ์บางแห่งอาจ "ไม่รับ" หรือประเมินราคาทรัพย์สินให้ต่ำกว่าราคาซื้อขายจริง (เพราะถือเป็นอุปกรณ์ดัดแปลง)
-
ทางออก: ผู้ซื้อมักจะต้องใช้ "เงินดาวน์สูง" (20-30%) หรือบางครั้งอาจต้องถอดอุปกรณ์บางอย่างออกก่อนถ่ายรูปจัดไฟแนนซ์ แล้วค่อยใส่กลับทีหลัง (ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละไฟแนนซ์)
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: งบ 5 แสน ซื้อ Toyota Commuter ปีไหนได้บ้าง?
A: ในงบ 500,000 บาท คุณน่าจะหา Toyota Commuter โฉมปี 2008-2012 (เครื่อง 2.5 หรือ 2.7 เบนซินติดแก๊ส) สภาพพอใช้ได้ครับ แต่ถ้าอยากได้ปีใหม่ๆ (2014+) อาจต้องขยับงบไปที่ 6-7 แสนบาท
Q2: ซื้อรถตู้ปลดระวางจากหน่วยงานราชการ ดีไหม?
A: ราคาถูกจริง แต่อาจต้องเผื่อเงินซ่อมเยอะครับ เพราะรถหลวงมักใช้งานตามอายุและอาจไม่ได้รับการดูแลถนอมเท่ารถส่วนบุคคล ควรพาช่างเก่งๆ ไปดูด้วยครับ
Q3: รถตู้กู้ภัยมือสอง ดอกเบี้ยแพงไหม?
A: ดอกเบี้ยจะสูงกว่ารถเก๋งครับ ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ประมาณ 5% - 8% (Flat Rate) ต่อปี ขึ้นอยู่กับปีรถและเครดิตผู้กู้
ตาดีได้ ตาร้ายเสีย (แต่เช็กได้)
"รถตู้กู้ภัยมือสอง" เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ แต่ต้องใส่ใจในการเลือกซื้อเป็นพิเศษ เน้นดูที่ "เครื่องยนต์" และ "ระบบไฟ" เป็นหลัก
และที่สำคัญที่สุดคือ "ความถูกต้องทางกฎหมาย" เมื่อได้รถมาแล้ว อย่าลืมดำเนินการเรื่องสังกัดหน่วยงานและการขออนุญาตใช้สัญญาณไฟให้ถูกต้อง เพื่อให้คุณช่วยเหลือสังคมได้อย่างสบายใจและปลอดภัยครับ
อ่านบทความเกี่ยวกับสินเชื่อรถกระบะเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย