การผ่อนรถยนต์เป็นทางเลือกที่หลาย ๆ คนใช้ในการซื้อรถ แต่ก่อนที่จะเซ็นสัญญาและเริ่มต้นการผ่อน หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจวิธีการคำนวณสินเชื่ออย่างถี่ถ้วน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานการ คํานวณ สินเชื่อรถ และปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การผ่อนรถเป็นเรื่องง่าย และไม่มีปัญหาภาระทางการเงินตามมา
เคล็ดลับคำนวณสินเชื่อรถให้ดี
รู้จักกับอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate)
ดอกเบี้ยคือสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อคุณขอสินเชื่อ ไม่ว่าคุณจะซื้อรถใหม่หรือรถมือสอง อัตราดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่ต้องจ่ายควบคู่กับค่างวดที่ชำระทุกเดือน ดอกเบี้ยของสินเชื่อรถยนต์ในประเทศไทยนั้นมีสองรูปแบบ ได้แก่- ดอกเบี้ยคงที่: เป็นดอกเบี้ยที่มีอัตราคงที่ตลอดระยะเวลาการผ่อน เช่น หากเริ่มต้นผ่อนด้วยดอกเบี้ย 3% ต่อปี อัตรานี้จะคง ที่ตลอดอายุสินเชื่อ
- ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก: ดอกเบี้ยแบบนี้จะคำนวณจากยอดหนี้คงเหลือ ดังนั้นยิ่งคุณผ่อนชำระเร็วเท่าไหร่ ยอดเงินต้นจะลดลง และ ดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่าย ก็จะลดลงตามไปด้วย
คํานวณ สินเชื่อรถ (Installment Calculation)
การคำนวณค่างวดในการผ่อนรถนั้นไม่ซับซ้อนเกินไป แต่ จะมีการคำนวณในหลายส่วนด้วยกัน ดังนี้:- เงินต้น (Principal): ยอดเงินกู้ที่คุณได้รับ เช่น หากคุณต้องการซื้อรถ ที่ราคา 600,000 บาท และ วางเงินดาวน์ 100,000 บาท เงินต้น ที่คุณจะต้องขอสินเชื่อ คือ 500,000 บาท
- ดอกเบี้ย (Interest): ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากเงินต้นที่คุณกู้ เช่น หากสินเชื่อรถมีอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี คุณต้องคูณเงินต้นด้วยอัตราดอกเบี้ย เพื่อหาจำนวนดอกเบี้ย ที่คุณจะต้องจ่ายต่อปี
- ระยะเวลาการผ่อน (Loan Term): ระยะเวลา ที่คุณจะต้องผ่อนชำระ เช่น 48 เดือน, 60 เดือน หรือ 72 เดือน
วางเงินดาวน์ (Down Payment)
การวางเงินดาวน์ที่สูงขึ้น จะช่วยลดภาระการผ่อนชำระ ในแต่ละเดือน และ ลดดอกเบี้ย ที่ต้องจ่ายตลอดอายุสินเชื่อ การวางเงินดาวน์มาก สามารถลดเงินต้น ที่ต้องขอสินเชื่อ ทำให้ยอดดอกเบี้ยที่คำนวณต่ำลงไปด้วย- วางเงินดาวน์สูง ช่วยลดภาระดอกเบี้ย ในระยะยาว
- วางเงินดาวน์ต่ำ จะทำให้คุณต้องผ่อนชำระ ในแต่ละเดือนสูงขึ้น และ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
ระยะเวลาผ่อนชำระ (Loan Term)
การเลือกระยะเวลาผ่อนชำระ ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณเลือกผ่อนระยะเวลาสั้น ๆ เช่น 36 หรือ 48 เดือน คุณจะจ่ายดอกเบี้ยรวมน้อยลง แต่ค่างวด ในแต่ละเดือนอาจสูง ในขณะที่หากเลือกผ่อนระยะยาว เช่น 60 หรือ 72 เดือน ค่างวดจะต่ำลง แต่ดอกเบี้ย ที่คุณจ่ายรวมจะสูงขึ้น ดังนั้น คุณควรพิจารณา ความสามารถทางการเงินของคุณว่า จะสามารถผ่อนชำร ะเป็นระยะเวลานาน แค่ไหน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อ การใช้ชีวิตค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (Additional Fees and Costs)
การขอสินเชื่อรถยนต์นอกจากดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึง เช่น- ค่าธรรมเนียมในการขอสินเชื่อ: บางธนาคารอาจคิดค่าธรรมเนียม สำหรับการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์
- ค่าประกันภัยรถยนต์: ส่วนใหญ่สินเชื่อรถจะต้องมีการทำประกันภัยรถยนต์ ควบคู่ไปด้วย
- ค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ: ค่าธรรมเนียมนี้จะขึ้น อยู่กับ แต่ละธนาคาร โดยอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บ เมื่อเริ่มต้นขอสินเชื่อ